เรียนแพทย์ที่จีน ภาคอินเตอร์ (MBBS)
โรงพยาบาลในไทยกำลังเติบโตมากขึ้นในทิศทางเดียวกันกับธุรกิจท่องเที่ยว เพื่อรองรับคนไข้จากรอบโลก โรงพยาบาลใหญ่ๆจึงมีความต้องการบุคลากรด้านการเรียนแพทย์ที่มีความสามารถด้านภาษาควบคู่กับความรู้ด้านเฉพาะทาง
เรียนแพทย์ที่จีน หลักสูตรอินเตอร์ (MBBS) หรือการเรียนแพทย์ ภาคภาษาอังกฤษ จึงเป็นโอกาสที่ดีและเป็นอีกทางเลือกหนึ่ง สำหรับการศึกษาในสาขาอาชีพแพทย์ สำหรับการเรียนแพทย์ต่างประเทศ เนื่องจาก นักศึกษาจะได้ทั้งภาษาอังกฤษ และภาษาจีน ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบดังคุณสมบัติทั้งสองข้อด้านบน
เล่าประสบการณ์จากรุ่นพี่นักศึกษา เรียนแพทย์ที่จีน ประเทศจีน
คงจะไม่มีใครปฏิเสธได้ว่าสังคมในอดีตมีความแตกต่างกับสังคมในปัจจุบันเป็นอันมาก ทั้งในเรื่องการดำเนินชีวิต การงาน อาชีพ และเรื่องอื่นๆที่เข้ามามีอิทธิพลในชีวิต สิ่งหนึ่งที่เราสามารถเลือกเพื่อที่จะเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ดีคือ โอกาสทางการศึกษา การเลือกโอกาสทางการศึกษานั้นมีหลายรูปแบบ โดยขึ้นอยู่กับความสนใจของผู้ศึกษาที่จะต้องนำความรู้ต่างๆเพื่อการประกอบอาชีพในอนาคต
สำหรับน้องๆที่กำลังพิจารณาสนใจในการศึกษาเรียนต่อแพทย์ที่จีน คณะแพทยศาสตร์ NT Education ได้รวบรวมบทสัมภาษณ์และประสบการณ์จากนักศึกษา แพทย์ รุ่นพี่ ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อเป็นทางเลือกประกอบการพิจารณาสำหรับน้องๆทุกท่าน
หลักสูตรแพทย์อินเตอร์ (MBBS) ณ มหาวิทยาลัยชั้นนำ
International School of Capital Medical University
-
ISCCMU เป็น 1 ใน 10 มหาวิทยาลัยแพทย์ชั้นนำในประเทศจีน ถูกจัดในระดับ A+
-
เป็นมหาวิทยาลัยที่สำคัญในการวิจัยทางการแพทย์ของรัฐบาลจีน
-
เป็นศูนย์กลางของการสอบ USMLE ในประเทศจีน
-
มีโรงพยาบาลในเครือ 15 แห่ง ซึ่งโรงพยาบาล1 แห่ง ติด 1 ใน 10 โรงพยาบาลระดับโลก, โรงพยาบาล 3 แห่ง ติด 3 ใน 10 โรงพยาบาลในเอเชีย , โรงพยาบาล 5 แห่ง เป็นโรงพยาบาลชั้นนำในประเทศจีน
-
มีนักศึกษากว่า 33 ประเทศทั่วโลก
เป็นมหาวิทยาลัยแพทย์ที่จีน ภาคอินเตอร์ แห่งเดียวในเมืองหลวงปักกิ่ง ประเทศจีน
-
มีคณาจารย์ที่มีความรู้และประสบการณ์อยู่ระดับแนวหน้าของประเทศจีน จบจาก Harvard University และ Johns Hopkins University
Fudan University
มหาวิทยาลัยฟูตันกลายเป็นสถาบันการศึกษาที่มีอิทธิพลมากที่สุดในโลก โดยมีความร่วมมือและการแลกเปลียน การศึกษากับมหาวิทยาลัยต่างๆ มากกว่า 200 แห่ง รวมไปถึง Harvard University, The University of California, Cornell University, Waseda University นอกจากนี้ เป็นหนึ่งในสามสิบมหาวิทยาลัยในจีน ที่ทางกระทรวงศึกษาธิการจีนอนุมัติการเปิดการเรียนการสอนหลัก สูตรแพทยศาสตร์ภาคภาษาอังกฤษแก่ชาวต่างชาติได้
ปัจจุบันทางมหาวิทยาลัยฟูตัน เปิดการสอนแพทย์ถึง 20 สาขาวิชา และมีการร่วมมือกับโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงของจีนซึ่งเปิดโอกาสให้นักศึกษาปฏิบัติงานทาง การแพทย์และงานวิจัย นอกจากนี้มีการเปิดการสอนในสาขาอื่นเช่นกัน ตั้งแต่ระดับปริญญาตรี จนถึงปริญญาเอก โดยมหาวิทยาลัยมีเป้าหมายหลักในการพัฒนาศักยภาพของมหาวิทยาลัยให้เท่าเทียมมาตรฐานสากล จุดเด่นของ มหาวิทยาลัยคือ มีการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนงานวิจัยที่ดีมากยิ่งขึ้น
Kunming Medical University
-
เป็นมหาวิทยาลัยแพทยศาสตร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในมณฑลยูนนาน มีประวัติความเป็นมากว่า 80 ปี
-
ใกล้ประเทศไทย การเดินทางสะดวกสบาย ผู้เรียนปรับตัวได้ง่าย
-
มีนักเรียนไทยน้อยมากเป็นโอกาสทำให้ผู้เรียนได้ภาษารวดเร็วทั้งภาษาจีนและภาษาอังกฤษ
-
สามารถสมัครเป็นนักเรียนแพทย์ได้ ตั้งแต่อายุ 16 ปีขึ้นไป
Sun Yat Sen University
มหาวิทยาลัยซุนยัดเซ็น ตั้งอยู่ในเมืองกวางเจา ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในตอนใต้ของประเทศจีน ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่ใกล้กับเกาะฮ่องกง และเกาะมาเก๊า ก่อตั้งขึ้นในปี ค.ศ. 1924 โดย ดร. ซุน ยัดเซ็น นายแพทย์และผู้นำปฏิวัติประชาธิปไตยจีนที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งมีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานกว่า 100 ปี เดิมมีชื่อว่า Guangdong University ต่อมาในปี ค.ศ. 1926 มีการเปลี่ยนชื่อเป็น Sun Yat-Sen University มหาวิทยาลัยฯได้รับการจัดลำดับเป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโซนใต้ของประเทศจีน และได้รับการยอมรับ เป็นมหาวิทยาลัยต้นแบบ และได้รับคัดเลือกให้อยู่ใน โปรเจค 985 และ 211 ซึ่งเป็นโปรเจคของรัฐบาลจีน เกี่ยวกับ 100 มหาวิทยาลัยต้นแบบที่มีระบบ แบบแผนและการศึกษาสำหรับศตวรรษที่ 21 ประกอบไปด้วย4 วิทยาเขต ได้แก่ วิทยาเขตใต้ วิทยาเขตเหนือ วิทยาเขตตะวันออก (ตั้งอยู่ในเขตเมืองมหาวิทยาลัย) และวิทยาเขต จูไห่
รายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการสมัคร (เรียนแพทย์ที่จีน)
- เอกสารประกอบการรับสมัคร
- ขั้นตอนการสมัครเข้าเรียนต่อ
- Tab
- กฎเกณฑ์การเข้าศึกษาต่อ
- ช่วงเวลาสำหรับการสมัคร
- เว็บไซต์สำหรับตรวจสอบใบอนุญาตทางการแพทย์
เอกสารประกอบการสมัคร หลักสูตรแพทย์อินเตอร์ (MBBS) มีดังนี้
1. ใบสมัครของทางศูนย์ (โดยขอได้จากทางศูนย์ NT Education)
2. สำเนาหนังสือเดินทางหน้าแรก 1 ฉบับ
3. ใบประกาศนียบัตรการสำเร็จการศึกษามัธยมปลาย* หรือเอกสารรับรองจากทางโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย (เป็นภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาจีน) ตัวจริง 1 ฉบับ
4. สำเนาใบรับรองผลการเรียนในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (Transcript) 1 ฉบับ*(เป็นภาษาอังกฤษ หรือ ภาษาจีน) แสดงผลการเรียนอย่างน้อย 5 ภาคการศึกษา โดยมีตราประทับจากโรงเรียนที่นักเรียนสำเร็จการศึกษา และเกรดเฉลี่ยรายวิชาหลักอันได้แก่ ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ จะต้องไม่ต่ำกว่า 3.00
5. คะแนนสอบ TOFEL, IELTS (ถ้ามีจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ)
6. ในกรณีที่ยื่นใบ Transcript of GED Tests จะต้องมีคะแนนรวมไม่ต่ำกว่า 2250 คะแนน และแต่ละรายวิชา อันได้แก่ Language Arts, Reading Language Arts, Writing Mathematics Science และ Social Studies จะต้องมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 410 คะแนน คะแนนสอบ TOFEL, IELTS (ถ้ามีจะได้รับการพิจารณาเป็นพิเศษ)
7. ในกรณีที่ยื่นสำเนาใบรายงานผล “A” Level หรือ “O” ที่มีตราประทับของสถาบัน British Council
8.รูปถ่ายครึ่งตัว หน้าตรง ไม่สวมหมวก ขนาด 1.5 – 2 นิ้ว พื้นหลังขาว จำนวน 5 รูป
9.เงินค่าสมัครของมหาวิทยาลัย (ไม่มี refund)
หมายเหตุ **ประกาศนียบัตรการศึกษามัธยมปลายและใบรับรองผลการเรียนมัธยมปลาย หากต้นฉบับเป็นภาษาอื่นที่ไม่ใช่ภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ จะต้องแปลเป็นภาษาจีนหรือภาษาอังกฤษ และลงนามรับรองเอกสารด้วย)
1. นักเรียนยื่นแบบฟอร์มใบสมัครที่กรอกข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ (ขอรับแบบฟอร์มต่างๆ พร้อมเอกสารประกอบการสมัครได้ที่ NT education)
2. ทันทีที่ ศูนย์ NT education ได้รับแบบฟอร์มใบสมัครและเอกสารต่างๆแล้ว หากมีคำถามหรือข้อสงสัย NT education จะติดต่อกลับไปยังนักเรียน
3. NT education จะส่งเอกสารทั้งหมดไปที่คณะกรรมการพิจารณาใบสมัครของนักเรียนนานาชาติประจำมหาวิทยาลัยที่นักเรียนสมัครเข้าศึกษาต่อ
4. มหาวิทยาลัยจะแจ้งผลการพิจารณาผ่าน NT education ว่าตอบรับนักเรียนเข้าศึกษาต่อหรือไม่ และส่งใบตอบรับ (Admission Notice Letter) พร้อมใบแจ้งรายละเอียดค่าประสานงานและดำเนินการของ NT education (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย)
5. เมื่อนักเรียนได้รับใบตอบรับจากมหาวิทยาลัยและใบแจ้งรายละเอียดค่าประสานงานและดำเนินการของ ศูนย์ NT education แล้ว นักเรียนจะต้องชำระเงินตามยอดเงินที่ระบุในใบตอบรับจากมหาวิทยาลัยและใบแจ้งค่าประสานงานและดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด เพื่อเป็นการยืนยันสิทธิ์เข้าเรียน เมื่อนักเรียนโอนเงินเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นักเรียนจะต้องส่งหลักฐานการโอนเงินมาที่ ศูนย์ NT education เพื่อส่งต่อไปยังมหาวิทยาลัยต่อไป
6. NT education จะเป็นผู้ประสานงานขอรับแบบฟอร์มจดหมายเชิญเพื่อใช้ประกอบการขอเอกสารนักเรียน จากกระทรวงศึกษาธิการของจีน
7. ในระหว่างที่นักเรียนรอแบบฟอร์มจดหมายเชิญนั้น นักเรียนจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายเพื่อศึกษาต่อตามที่สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทยกำหนด (ขอรับแบบฟอร์มตรวจร่างกายได้ที่ ศูนย์ NT education ที่โรงพยาบาลรัฐบาลในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เท่านั้นยกเว้นที่โรงพยาบาลรามาธิบดีและนักเรียนควรจัดเตรียมเอกสารเพื่อประกอบการขอขยายระยะเวลานักเรียนและเอกสารที่จะต้องนำติดตัวไปเพื่อใช้ในวันรายงานตัวที่มหาวิทยาลัย
8. นักเรียนจะต้องแจ้งรายละเอียดการเดินทางของนักเรียนกับ ศูนย์ NT education ในกรณีเดินทางไปเอง เพื่อขอรับบริการรถรับที่สนามบิน (Airport Pick-up Service) อย่างน้อย 20 วันก่อนวันเดินทางเพื่อแจ้งกับทางมหาวิทยาลัยต่อไป เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยหรือเจ้าหน้าที่ของ ศูนย์ NT education ประจำเมืองนั้นๆ จะเป็นผู้รอรับนักเรียนที่สนามบินที่ใกล้มหาวิทยาลัยที่สุด
9. เมื่อนักเรียนได้รับแบบฟอร์มการจากทางศูนย์แล้ว นักเรียนควรติดต่อกลับทางศูนย์เพื่อส่งเอกสารการกับทางศูนย์
10. ทางศูนย์ NT education จะเป็นตัวแทนในการยื่นเอกสารให้กับนักเรียน และทางศูนย์ NT education จะมอบเอกสารทั้งหมดคืนให้แก่นักเรียน ซึ่งนักเรียนจะต้องนำเอกสารทุกฉบับที่ได้รับคืนจากทางศูนย์ NT education ติดตัวไปประเทศจีนด้วย เพื่อใช้แสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองที่สนามบินในประเทศจีนและเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยในวันรายงานตัว หากนักเรียนมิได้นำเอกสารดังกล่าวโดย เฉพาะใบตรวจร่างกายติดตัวไปด้วย นักเรียนจะต้องเข้ารับการตรวจร่างกายอีกครั้งที่สำนักงาน The Administration for Entry-Exit Inspection and Quarantine ประจำเมืองที่มหาวิทยาลัยตั้งอยู่ โดยนักเรียนจะต้องเป็นผู้ชำระค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเองทั้งหมด ในกรณีที่นักเรียนไม่ผ่านการตรวจร่างกาย 2 ครั้ง นักเรียนจะต้องเดินทางกลับประเทศไทยภายในระยะเวลาที่กำหนด
11. ก่อนการเดินทางนักเรียนควรเข้ารับฟังการปฐมนิเทศก่อนการเดินทางจาก ศูนย์ NT education ซึ่งนักเรียนจะได้รับทราบข้อมูลและคำแนะนำที่จำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตในประเทศจีน และนักเรียนควรปฏิบัติตามคำแนะนำดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
12. เมื่อนักเรียนเดินทางถึงสนามบิน เจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยหรือเจ้าหน้าที่ของ ศูนย์ NT education จะมารอรับนักเรียน เมื่อผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองและพิธีการศุลกากรแล้ว ให้นักเรียนมองหาป้ายที่มีโลโก้ของ ศูนย์ NT education ที่มีชื่อนักเรียนติดอยู่ จากนั้นเจ้าหน้าที่คนดังกล่าวจะพานักเรียนไปส่งยังหอพักนักศึกษานานาชาติของมหาวิทยาลัย
13. นักเรียนจะต้องไปรายงานตัวพร้อมเอกสารต่างๆ ที่แผนกนักเรียนต่างชาติในวันและเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด
14. หากนักเรียนมีปัญหาหรือข้อสงสัย กรุณาติดต่อกับเจ้าหน้าที่ของ ศูนย์ NT education ในประเทศจีนหรือศูนย์ NT education ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
1. ไม่ได้เป็นพลเมืองในประเทศจีน
2. มีสุขภาพแข็งแรง
3. อายุขั้นต่ำ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
4. สำเร็จการศึกษาขั้นต่ำจากโรงเรียนมัธยมปลายหรือเทียบเท่า (มัธยมศึกษาปีที่ 6) ขึ้นไป
5. ได้คะแนนเฉลี่ยใน 5 วิชาหลักไม่น้อยกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ (ฟิสิกส์ เคมี ชีววิทยา คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ)
6. มีความสามารถทางภาษาอังกฤษ ในการฟัง พูด อ่าน และเขียน
7. มีคุณธรรมที่ดีและปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียนของรัฐบาลจีนและระเบียบข้อบังคับของมหาวิทยาลัย
หมายเหตุ ความต้องการอื่นๆขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัยเป็นผู้กำหนด
ช่วงระยะเวลาในการสมัคร
ผู้สมัครควรเตรียมเอกสารให้พร้อมและยื่นเอกสารให้ทางศูนย์พิจารณาเบื้องต้นได้ ตั้งแต่ ผู้สมัครได้เกรด หรือ Transcript ครบ 5 ภาคการศึกษา
ระยะเวลาดำเนินการ
หมายเหตุ วันที่เฉพาะเจาะจงขึ้นอยู่กับแต่ละมหาวิทยาลัย ข้อมูลเบื้องต้นเป็นเพียงข้อมูลอ้างอิง
1. The Medical Council of Thailand (TMC)
: http://www.tmc.or.th/news06_1.php
: http://www.facebook.com/tmcfamily
China
1. Chinese Medical Association (CMA)
: http://www.cma.org.cn/ensite/
2. National Medical Examination of China (NMEC)
: http://www.nmec.org.cn/English/english.html
India
1. Medical Council of India (MCI)
: http://www.mciindia.org/
2. Foreign Medical Graduates Examination (FMGE)
3. Screening Test by National Board of Examinations (NBE)
: http://www.natboard.edu.in/
4. Biggest Medical Examination Forum (RxPG)
: http://www.rxpgonline.com/forums.html
Pakistan
1. Pakistan Medical and Dental Council (PMDC)
: http://dev.plexushosting.com/pmdc/
2. About National Examination Board (NEB)
: http://www.pacme.pk/pmdc-neb-exam.html
3. Complete Guide to Pakistan Medical and Dental Council (PMDC)
: http://pmdc-neb.blogspot.com/
South Africa
1. Health Professions Council of South Africa (HPCSA)
: http://www.hpcsa.co.za/
2. Medical & Dental Professions Board
: http://www.hpcsa.co.za/board_meddent.php
3. Register in the Category Public Service (General Practitioner)
: http://www.hpcsa.co.za/downloads/medical_dental/registration_public_service_gp.pdf
Saudi Arab
1. Saudi Commission for Health Specialties (SCHS)
: http://english.scfhs.org.sa/
2. Register Saudi Commission for Health Specialties Testing On Prometric
: http://www.prometric.com/SCHS/default.html
United Kingdom
1. General Medical Council
: http://www.gmc-uk.org/
2. Professional and Linguistic Assessments Board (PLAB)
: http://www.gmc-uk.org/doctors/plab.asp
3. UK-Medical Zone
: http://www.aippg.net/forum/forum.php#uk-medical-zone
United States
1. United States Medical Licensing Examination (USMLE)
: http://www.usmle.org/
2. USMLE Forums
: http://www.usmle-forums.com/
Australia
1. Australian Medical Council (AMC)
: http://www.amc.org.au/
2. AMC Exams
: http://www.amcexams.com/
3. Australian Medical Council (AMC) EXAM Forum
: http://www.aippg.net/forum/f33/